Monday, August 21, 2006

ณ กาลวายุ


ท่ามกลางความเหนื่อยระทวยในตาพายุ ขณะหนึ่งข้าพเจ้าสัมผัสได้ซึ่งสายลมเยียบพรายพริ้ว ความโกลาหลรอบตัวเป็นเพียงความเคลื่ื่อนไหวสถิตย์ ความไม่ไหวติงในแขนงการส่ายสั่นสะท้านของมวลรอบตัว ยังความสงบมาสู่ตัวข้าพเจ้า

ในท่ามกลางสายตาที่พร่ามัวเนื่องด้วยเศษทราย ดิน เศษแก้วและขวด(เหล้า) และวัตถุนานาชนิด ที่หมุนวนเกรี้ยวกราดอยู่รอบข้าพเจ้า-ใช่ซินะ... นั่นคงเป็นเศษกระดาษที่ข้าพเจ้ามักจะจดจารอะไรไว้เพื่อการทำงานหรือบันทึกความคิดผุๆเน่าๆหาสาระใดมิได้ เอ๊ะ!-ส่วนสิ่งนั้นคงเป็นเงินที่ข้าพเจ้าทำหล่นหายไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นั่นคงเป็นบิลล์เก็บเงินหลายหลากที่มั้นรั้งความสนุกข้าพเจ้าให้แดดิ้นอวดโฉมร่านมิได้ โอ้ว!-นั่นมันหนังสือเสเพลบอยชาวไร่ ของรงษ์ที่ข้าเสพย์อย่างคนคลั่งเสพยาบ้า


หากให้ข้าพเจ้านั่งอธิบายวัตถุหมุนวนเกรี้ยวกราดเหล่านี้ ก็คงจะเปลืองเปล่าเวลาผู้อ่านเป็นอย่างมาก (ซึ่งก็คงจะเป็นตัวข้าพเจ้าแต่ผู้เดียว)
แต่เท่าที่รู้หากข้าพเจ้าพินิจพวกมันดู ข้าพเจ้ารู้สึกได้ถึงความเกี่ยวเกาะเลื้อยรัดกับรยางค์หนึ่งรยางค์ใดของต้นไม้แห่งชีวิตของข้าพเจ้า-ไม่มากกว่าประทับใจ ไม่น้อยกว่าหยดน้ำตา

วิถีแห่งดาบศัตรู กำลังสอดขนานไปกับระดับสายตาของข้าพเจ้า นำพาความเงียบงันวิปลาศมายังตัวข้าพเจ้า(มิได้หรือมิสามารถที่จะระบุผู้ใด-ข้าพเจ้าไม่รู้ อาจเป็นตัวข้าพเจ้าเอง หรือใคร )

ฤาขณะก่อนตายดับสิ้น ฤาขณะหยั่งรู้็และบงการ... ข้าพเจ้าไม่แน่ใจนัก


........................................................................


ข้าพเจ้าไร้ความสุขโป่งพอง และมิได้ทุกข์สะท้านฟูมฟาย

มันนานเท่าไหร่แล้วหนอ...ที่ทวิลักษณ์ความรู้เทวาหรือซาตานแห่งการแบ่งแยกของมนุษย์และของตัวข้าพเจ้าเองนั้นมันหมดแรงคืบคลานไปยังขอบแห่งมัน ... กลางเกินไป กลางเกินไป บ่อยครั้งที่ข้าพเจ้าคิดเช่นนั้น ถูกหรือไม่ สมควรสมาทานหรือไม่ ข้าพเจ้ายังไม่สามารถตัดสินใจได้ รอแต่เพียงบางสิ่งบางอย่าง อาจเป็นเวลาที่จะเปิดเผยสิ่งที่ข้าปุจฉาไปในเมืองหมอกเร้นลับแห่งจิต

คงเป็นเพราะความไม่แน่ใจในแขนงแห่งตรรกะนิยมที่แวะมาทักทายข้าพเจ้าอีกครั้ง-ในหลายครั้งของการพบเจอ แต่ครั้งนี้มันมาหลังจากห่างหายไปเสียนาน-ช้าไปแล้วที่จะผรุสวาทสาดโคลนและโอนความผิดให้แก่มัน นี่แหล่ะหนา-ข้าพเจ้ามิเคยประกาศว่าเป็นมิตรหรือศัตรูแต่พฤติการณ์ที่มักเกิดคืแข้าพเจ้าต้องเผชิญกับมันอยู่ร่ำไป โอเคๆ-งั้นท่านคงอาจเป็นมิตรของเรา หรือหากมิใช่คงเป็นศัตรูอันเป็นที่รัก-ไว้กลับมานิยาม เมื่อสถานกาีรณ์และเวลาเป็นคำตอบ


.........................................................................


ภาพสายตาเช่นที่ดำเนินอยู่ เสียงครืนครั่นของปัจจัยรอบตัวดั่งเสียงหวีดเหวยกรีดร้องของหม้อน้ำเดือด แผดทะลวงทุกเยื่อใน สัมผัสรุนแรงยื้อกระชากผิวหนังเหมือนสงครามแห่งมนุษย์สวาปามคน ทั้งหลายนั้นพุ่งตรงเดือดพล่านมาหาข้าพเจ้า-โอ มันช่างดุดันเหลือเกิน มิพักต้องรวทถึงความมืดสีหม่นที่แผ่อำนาจทั้งพื้นที่และกาลเวลาเอาไว้ดั่งปีศาจทุนนิยมที่กัดกินใจเราอยู่ ณ ตอนนี้-เหี้ยมเกรียม มุ่งมั่น ไม่หยุด กว่าจะเห็นความตาย

ทำไมข้าพเจ้ารูู้็้สึกถึงทำนองรื่นไหล มิใช่แยซซ์ มิใช่บลูส์ (หรืออาจเป็นทั้งสอง) มิใช่ปาร์คเกอร์(ชาลี), ฟิตซ์เจอรัลด์(เอลลา) และหรือ มิใช่ โรเบิร์ต ยอห์นสัน มิใช่บี บี คิง แต่มันหนักหน่วงแบบอินดัสเทรียล-แมนสัน (มาริลีน) ซึ่งภายในความหยาบกร้าน มันแฝงฝังด้วยท่วงทำนองโสดาบันบอสซ่า กิลแบร์โต้(แอสตรูด) ในคำร้องโน้มถ่วงเช่นแรงดึงดูด ของเสต็ก ที โบน เนื้อสันก้อนใหญ่ของผู้ใฝ่หาสุนทรียะ

ความรู้สึกเช่นว่า-ความรู้สึกในแขนงเทวีสาวและซาตานผู้ สังวาสกันอย่างร้อนพระอาฑิตย์ แดงเลือดอิรักบริสุทธ์เงื้อมจงอยปากอินทรีย์บ้าน้ำมัน แต่สวยงามอ่อนโยนยิ่งกว่าเธอผู้ที่ข้าพเจ้ารัก-ไม่มากและไม่น้อยกว่านี้ในนามของความงามทางโลกส่วนตน
สงบกว่าการนึกถึงโดยไม่ถึงความว่างเปล่า-ปรมาจารย์แห่งเซนกำหนด โดยข้าพเจ้ากำหนัดรู้


.........................................................................


หนึ่งในความน่าจะเป็น-ข้าไม่แน่ใจในตัวเองอีกแล้ว หนึ่งในความน่าจะเป็น-ข้าพเจ้าหวาดกลัว หนึ่งในความน่าจะเป็น-ข้าพเจ้าตรมทุกข์ระดับลึกที่สุดในขนาด โน แมน'ส แลนด์ หนึ่งในความน่าจะเป็น-ข้าพเจ้าขุดตนลึกหยั่งรู้สิ่งแท้เที่ยงไม่ผัน หนึ่งในความน่าจะเป็น-ข้าพเจ้ากำลังพิกาฬหฤหรรษ์ หนึ่งในความน่าจะเป็น-ปัจจุบัน,อนาคต,อดีตสลายไป

ทั้งหลายน่าจะเป็น...

แต่อะไรคือสิ่งที"่เป็น"ข้าพเจ้าไม่ทราบซ่านสดับ แม้จะเห็นคำตอบ แต่ไร้การรู้ สัมผัสไม่ได้ ขาดด้วนการอธิบายพรรณนาถึงมัน จนกว่ารูปธรรมจะเผยตัวในสายตา แต่ความไม่แน่ใจยังมีต่อไปว่า ตาข้าพเจ้าพร่าเลือนหรือ ข้าพเจ้ามิได้ใช้จามองอีกต่อไป ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าข้าพเจ้าชาชินกับสิ่งเร้าทุบจิตใจ(แต่มิได้หยุดความเสียหาย) หรือ ตัวเรือนกายข้าพเ้จาสลายสมานนรกสวรรค์โลกกัปกัลป์

อีกไม่นาน ในขนาดเวลาสันขวานของชีวิตมนุษย์สถุลรสเช่นข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคงรู้ผลแห่งมัน...

ฤาคือขณะก่อนตาย ฤาคือหยั่งรู้บงการ

โปรดอวยพรแด่ข้าพเจ้า

บันทึกไว้ ณ กาลวายุ
อาณาจักรแห่งจิต


Sunday, August 13, 2006

Times goes by in "the road I've been"



When I saw you...
I was afraid to talk to you
when I talked to you...
I was afraid to hold you
when I hold you...
I was afraid to love you
Now that I love you...
I'm afraid to lose you
yesterday is history...
tomorrow is mystery
and today is a gift
that's why it's called present
sometimes love hurt
then it isn't love
hold on the person you love
before they slip away
or else you can never get her back


from some moment in my life
in the night of rememberences
and lost memories...
was found in the silent of...
" the road I've been"