เรารู้สึกเช่นนี้กันบ้างหรือเปล่า

“ เมื่อฉันเรียนอยู่ปีหนึ่ง
ปัญญาเผอิญพลัดตกลงไปในหลุม
ซึ่งเขาขุดดักเอาไว้
พอปีสอง
หลุมยิ่งลึกขึ้น ปัญญาถูกขวากแหลมทิ่มแทง
พอปีสาม
บาดแผลยิ่งลึกฉกรรจ์
พอปีสี่
เมื่อฉันจบออกจากมหาวิทยาลัย
มีเพียงร่างกายหลงเหลืออยู่
กับลมหายใจไร้ชีวิต ”
กฤษณมูรติ, “แด่หนุ่มสาว”
ผมขออุทิศให้กับหนุ่มสาวทุกคนบนโลกนี้ครับผม ขอให้ในโลกแห่งความเป็นจริงเราอย่าเป็นเช่นนี้เลย
6 Comments:
ภาพนี้เป็นภาพของ Rita Angus หม่นทะบักเหงาทาท่วมดี ชอบครับ เหมาะกับกลอนเปล่าที่ผมเอามาใส่ ผมเก็บไว้นานแล้วในสมุดโน้ต จดไว้ตอนปี2 ตอนที่กำลังงงอย่างสุดๆ (ตอนนี้ก็มิได้พัฒนาจากเดิมเท่าไหร่หรอกฮะ)
อืม...ติสโคตรเลยท่าน
ว่าแต่ตอนนี้ท่านขึ้นมาจากหลุมได้หรือยัง??
หน้ายังเปรอะดิน ตีนยังเลอะโคลน
ปีนจนตัวโยน เพราะเห็นแสงอยู่รำไร
เท้ายังอ่อนล้า เพราะมุ่งจะปีนป่าย
พอหล่นมาทีไร ถึงเข้าใจว่าไม่ต้องปีน
ยิ่งไต่สู่แสง ยิ่งแสงจะแทงตา
ยิ่งไต่สู้ฟ้า ยิ่งฟ้าห่างไกล
ทั้งเหนื่อยทั้งล้า ตูจะบ้าอยู่แล้วเนี่ย
ขอตูนั่งอยู่ตรงเนี้ย ไม่อยากทำเวรอะไร
ขอตูนอนหลับตา หายใจช้าพักผ่อน
แล้วให้ดินที่เปรอะตน หลุดกร่อนจากภายใน
เออมันดีแฮ่ะไม่ต้องทำอะไร
แค่นั่งแล้วหายใจก็เห็นดินมันเย็นดี
เออสบายแฮ่ะ หนอนยังอยู่ได้
แล้วตูเป็นใครเอาตีนไปเหยียบดิน
พอว่าได้เช่นนี้ตูก็นอนหลับสบาย
รอไว้สายๆเดี๋ยวตูค่อยกลับมาปีน
โอ้ ถามเป็นร้อยแก้ว ตอบเป็นร้อยกรอง
วาทะศิลป์ช่างร้ายเหลือ.....นับถือ นับถือ
ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา น่าขำ !
โลกมันเลวร้ายกว่าที่มึงเขียนว่ะ โดยเฉพาะเมื่อกูไม่ได้ดูวงโปรดของกู ช่างเศร้านัก
Post a Comment
<< Home